ประวัติความเป็นมาของอำเภอภูเวียง

          ภูเวียงเป็นเมืองเก่ามาแต่โบราณกาล โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อแรกตั้ง จังหวัดขอนแก่น มีเพียง 3 เมืองเท่านั้น คือ เมืองชนบท เมืองภูเวียง และเมืองขอนแก่น โดยที่เมืองภูเวียงเป็นเมืองที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก คนทั้งหลายมักจะเรียกเมืองภูเวียงว่าเป็น "หัวเมืองเอกฝ่ายตะวันตก"
          ตามประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาคของอำเภอภูเวียง ปรากฎว่าเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๐๐ มีพรานป่าคนหนึ่งชื่อสิงห์ ภายหลังได้รับการแต่งตั้งเป็น "กวนทิพย์มนตรี" ได้เข้าไปล่าเนื้อในเขาภูเวียง กวนทิพย์มนตรีเดิมอยู่บ้าข่าเชียงพิณ อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้เห็นในวงภูเวียงเป็นทีราบน้ำท่าอุดมสมบูรณ์เป็นทำเลที่เหมาะสมแก่การทำมาหากิน จึงชักชวนพี่น้องเข้าไปตั้งหลักฐานบ้านเรือน ครั้งแรกอพยพเข้าไปประมาณ 10 ครอบครัว ไปตั้งบ้านบริเวณ "ด่านช้างชุม" เพราะที่ตรงนั้นมีโขลงช้างป่ามารวมกันมาก ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเก่า ขณะนั้นแผ่นดินภูเวียงขึ้นกับประเทศลาว ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าตากสินมหาราชของประเทศไทย เมื่อกวนทิพย์มนตรีไปตั้งบ้านเรือน ณ สถานที่ดังกล่าว และต่อมามีประชาชนเมืองยโสธร นครจำปาศักดิ์ และนครเวียงจันทน์ เข้าไปอยู่จำนวนมาก บ้านเมืองก็ขยายออกไปหลายหมู่บ้าน ทางเจ้าเมืองเวียงจันทน์จึงได้แต่งตั้งให้กวนทิพย์มนตรีเป็นเจ้าเมืองภูเวียง ส่งผ้าขาวเป็นเครื่องบรรณาการแก่เมืองเวียงจันทร์
          ต่อมากวนทิพย์มนตรีถึงแก่กรรม เจ้าเมืองเวียงจันทน์จึงแต่งตั้งท้าวศรีสุธอน้องชายของกวนทิพย์มนตรีเป็นเจ้าเมืองแทน ในระหว่างนั้น พระวอ พระตาเป็นกบฎต่อเจ้านครเวียงจันทน์ และได้หลบเข้ามาอยู่ในเมืองโกมุทไสย์ (ปัจจุบันคือจังหวัดหนองบัวลำภู)  เจ้านครเวียงจันทน์ทราบข่าวจึงสั่งให้ทหารจับพระวอ พระตา เมื่อพระวอ พระตารู้ตัวจึงหลบหนีไปอยู่ดอนมดแดง แขวงเมืองอุบลราชธานี เจ้านครเวียงจันทน์สั่งให้แม่ทัพคุมทหารติดตามไปจับพระวอ พระตาประหารชีวิต ความทราบถึงพระเจ้าตากสินมหาราช เห็นเจ้านครเวียงจันทน์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และรุกล้ำแดนไทย พระองค์ทรงพิโรธ จึงส่งเจ้าพระยาจักรี (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และเจ้าพระยาสุรสิห์ (สมเดชกรมพระราชวังบวร) สองพี่น้องยกทัพไปปราบเจ้านครเวียงจันทน์ ปรากฎว่าพระยาจักรีตีนครเวียงจันทน์แตก เข้ายึดเมืองนครเวียงจันทน์ และหลวงพระบางไว้ได้ ต่อมาท้าวศรีสุธอเจ้าเมืองภูเวียง ซึ่งอยู่ในความปกครองของเจ้าผู้ครองนครเวียงจันทน์ไหวตัวทัน จึงยอมอ่อนน้อมต่อเจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาจักรีจึงสั่งให้ท้าวศรีสุธอกลับไปเป็นเจ้าเมืองภูเวียงดังเดิม และให้ขึ้นกับเจ้าเมืองหนองคายซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของไทย เมื่อท้าวศรีสุธอถึงแก่กรรม ทางราชการได้แต่งตั้งเจ้าเมืองต่อจากท้าวศรีสุธอต่อมาอีก 2 คน มีบรรดาศักดิ์เป็นท้าวศรีสุธอที่ ๒ และที่ ๓และเมื่อท้าวสุธอที่ 3 ถึงแก่กรรม พระศรีธงชัยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองแทน เมื่อพระศรีธงชัยถึงแก่กรรม ข้าหลวงจันทร์ซึ่งส่งมาจากหนองคายขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทน แล้วจึงยุบภูเวียงเป็นอำเภอ ขึ้นตรงต่อจังหวัดขอนแก่น เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๓๖๙

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

แหล่งที่มา : http://www.kk.ru.ac.th/detail_puweang.htm   http://www.kkdopa.com/amp06/main1.html
 



Copyright (c) 2010 by Academic Resources Center สงวนสิทธิ์ห้ามทำซ้ำ ทั้งหมด หรือบางส่วนไม่ว่าในรูปแบบ
หรือสิ่งใดโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้ดูแลเว็บไซต์เป็นลายลักษณ์อักษร
Contact Webmaster :library@kku.ac.th or nayder@kku.ac.th