ประเพณีตักบาตรเทโว

          คำว่า เทโว  ย่อมาจากคำว่า  เทโวโรหนะ   แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก หรือการเสด็จลงจากเทวโลก  หมายถึง การเสด็จลาจากเทวโลกของพระพุทธเจ้า
          ตักบาตรเทโว   หมายถึง การทำบุญตักบาตร ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑  เนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากเทวโลก
          วันตักบาตรเทโว หมายถึง วันทำบุญตักบาตรในเทศกาลวันออกพรรษา ตามความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่า เป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา

ความเป็นมา                                                                                                                                     
          ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จไปประกาศพระศาสนาในแคว้นต่าง ๆ ทั่วชมพูทวีป (ปัจจุบันคือ ประเทศอินเดีย) ทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่าง ๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นปิตุภูมิของพระองค์  ทรงเทศนาโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดา พระนางมหาปชาบดีโคตรมี พระนางยโสธราพิมพา พระราหุลราชกุมาร ตลอดจนพระประยูรญาติทั้งหลายให้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยของตนแล้ว พระองค์ทรงระลึกถึงพระนางสิริมหามายา ซึ่งได้สิ้นพระชนม์หลังจากพระองค์ประสูติได้ ๗ วัน และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต  ทรงปรารถนาที่จะสนองคุณพระมารดาที่มีมากมายยิ่งนักจะหาอะไรเปรียบปรานมิได้ ทรงวินิจฉัยโดยรอบคอบแล้วเห็นว่า มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะสนองคุณพระมารดาเป็นการใช้หนี้ค่าน้ำนมให้คู่ควรกันได้ นั่นคือ พระอภิธรรม   ฉะนั้นในพรรษาที่ ๗ นับแต่ปีที่ตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่งจนบรรลุโสดาปัตติผล  ครั้นออกพรรษาแล้ว รุ่งขึ้นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธองค์จึงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาประทับที่เมืองสังกัสสะ
          ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก เมื่อทรงแลดูข้างล่าง สถานที่นั้นก็มีเนินอันเดียวกันจนถึงอเวจีมหานรก ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียง จักรวาลหลายแสนก็มีเนินเป็นอันเดียวกัน เทวดาก็เห็นพวกมนุษย์ แม้พวกมนุษย์ก็เห็นเทวดา สัตว์นรกก็เห็นมนุษย์และเทวดา ต่างก็เห็นกันเฉพาะหน้าทีเดียว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเปล่งฉัพพรรณรังสีขณะที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์   เมื่อบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้ที่มีความศรัทธาเลื่อมใสทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก ต่างพร้อมใจกันไปรอตักบาตรเพื่อรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น เพราะไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้ามาเป็นเวลาถึง ๓ เดือน ในวันนี้พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมโปรดเทวดาและมนุษย์ เป็นที่ชื่นชมยินดีโดยทั่วไป เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า  วันพระเจ้าเปิดโลก  พุทธบริษัททั้งหลายมีความชื่นชมยินดีจึงมีการทำบุญตักบาตรกันเป็นพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จจากเทวโลกลงมาสู่แดนมนุษย์ของพระพุทธองค์  การทำบุญตักบาตรในวันนั้นจึงได้ชื่อว่า  ตักบาตรเทโวโรหนะ  นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา
           และเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น พุทธบริษัททั้งหลายจึงนิยมตักบาตรเทโวโรหนะกันจนเป็นประเพณีสำคัญสืบทอดกันมาตราบเท่าทุกวันนี้ ต่อมามีการเรียกกร่อนไปเหลือเพียง ตักบาตรเทโว การตักบาตรเทโวนี้ บางวัดทำในวันออกพรรษา คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ บางวัดก็ทำในวันรุ่งขึ้น คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑

พิธีกรรมตักบาตรเทโว
          โดยมากทำกันในบริเวณพระอุโบสถ  แต่บางวัดทำในบริเวณวัดก็มี ทั้งนี้แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละท้องถิ่น โดยมีการดำเนินการดังนี้
          ๑. จัดเตรียมพระพุทธรูปที่จะอัญเชิญ นิยมพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ถ้าไม่มีอาจใช้ปางอื่น ๆ ก็ได้ แต่ต้องเป็นพระพุทธรูปยืน ประดิษฐานในบุษบก มีบาตรขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งไว้หน้าพระพุทธรูป      

 

                ๒. จัดเตรียมขบวนรถทรงหรือคานหามพระพุทธรูปเพื่อชักหรือหามพระพุทธรูปนำหน้า พระสงฆ์พระภิกษุ สามเณรถือบาตรเดินตามไปโดยลำดับในขบวนมีอุบาสก อุบาสิกา แต่งตัวเป็นพระอินทร์ พระอิศวร นางฟ้า นางสวรรค์ร่วมในขบวนอัญเชิญพระพุทธรูป

          

          


          ๓. พุทธศาสนิกชนเตรียมภัตตาหารใส่บาตร อาจเป็นข้าวปลาอาหารธรรมดา หรือข้าวสาร อาหารแห้งก็ได้ แล้วก็มีข้าวต้มลูกโยนที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของพิธีทำบุญตักบาตรเทโว เป็นพื้น อาจจะเป็นข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มผัดอย่างที่ทำขายหรือทำรับประทานกันอยู่ก็ได้


          ๔. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา


           ประเพณีตักบาตรเทโวเป็นงานที่ส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคีให้แก่ชาวบ้านอย่างมาก เป็นเครื่องควบคุมสังคมให้ ละ ลด เลิกอบายมุข หันหน้าเข้าวัดเพื่อทำบุญ  จึงมีส่วนช่วยให้สังคมสงบ ร่มเย็น เกิดสันติสุขเป็นอย่างดี พิธีที่จัดกันในเทศกาลวันออกพรรษานี้ บางวัดอาจทำกันเพียงธรรมดา  แต่บางวัดอาจจัดใหญ่โตเป็นประเพณีสำคัญของท้องถิ่น โดยอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในบุษบก ซึ่งตั้งอยู่บนล้อเลื่อนมีบาตรใหญ่ตั้งไว้หน้าพระพุทธรูป มีคนลากล้อเลื่อนไปช้า ๆ พระสงฆ์ สามเณรถือบาตรเดินตาม เพื่อให้ทายก ทายิกาที่ยืนนั่งกันอยู่เป็นแถวได้ใส่บาตร ข้าวของที่นิยมนำไปใส่บาตรในวันนั้น นอกจากข้าว กับข้าว ผลไม้ แล้วยังมีข้าวต้มมัดใต้ และข้าวต้มมัดโยนเป็นส่วนใหญ่  บางแห่งก็จะใส่บาตรด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง  ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก็จะมีประเพณีตักบาตรเทโวที่จัดใหญ่โตต่างกัน เช่น

อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น


        

          เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ  ภาคเอกชน และประชาชนชาวอำเภออุบลรัตน์ จัดงานประเพณีทำบุญตักบาตรเทโว นมัสการองค์พระใหญ่  ไหว้รอยพระพุทธบาท ในเทศกาลวันออกพรรษาเป็นประจำทุกปี จนกลายเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดขอนแก่น เพื่อส่งเสริมประเพณีสำคัญทางพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว  โดยในปี ๒๕๕๓ นี้  เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ได้จัดงานตักบาตรเทโว ในวันเสาร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. ณ วัดพระบาทภูพานคำ โดยมีพระสงฆ์และสามเณรจากทุกวัดในเขตอำเภออุบลรัตน์ จำนวน ๕๙๙ รูป รับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง และปัจจัยต่างๆ จากบริเวณยอดเขาวัดพระบาทภูพานคำ ลงมาตามขั้นบันไดนาค จำนวน ๑,๐๔๙ ขั้น ซึ่งชาวเมืองถือว่าเป็นบันไดสวรรค์ เพื่อลงมายังพื้นราบศาลาวัดพระบาทภูพานคำ

           ในวันดังกล่าวมี นายสุวิช คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี  นอกจากนี้ยังมี นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมในพิธีด้วย

แหล่งอ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.   (๒๕๕๓).  ตักบาตรเทโว.  ค้นข้อมูลวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%82%E0%B8%A7
สนุกพีเดีย.  (๒๕๕๐).  ตักบาตรเทโว.  ค้นข้อมูลวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ จาก  http://guru.sanook.com/pedia/topic/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%82%E0%B8%A7/
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ.  ข้อมูลวันสำคัญ : โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม “เรารัก วัฒนธรรมไทย”.   (๒๕๓๗).   พิมพ์ครั้งที่ ๒.  กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

 

เรียบเรียงโดย นายิกา เดิดขุนทด

ถ่ายภาพโดย วรพงษ์ เดิดขุนทด 

 


 

        

 



Copyright (c) 2010 by Academic Resources Center สงวนสิทธิ์ห้ามทำซ้ำ ทั้งหมด หรือบางส่วนไม่ว่าในรูปแบบ
หรือสิ่งใดโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้ดูแลเว็บไซต์เป็นลายลักษณ์อักษร
Contact Webmaster :library@kku.ac.th or nayder@kku.ac.th