มุมอีสานสนเทศ
ค้นหา:     ค้นหาขั้นสูง
เลือกดูตามหมวดหมู่:
English Version

มูนมังขอนแก่น เนื้อหาบทความ

มูนมังขอนแก่น

แสดงผล: 696
ลงคะแนน: 0
วันที่สร้าง: 04 Oct, 2010
ผู้สร้าง : นายิกา N.
วันที่ปรับปรุง : 11 Jan, 2012
ผู้แก้ไขปรับปรุง : นายิกา N.

          มูน หรือ มูนมัง เป็นคำไทยอีสาน หมายถึง มรดก (บุญเกิด พิมพ์วรเมธากุล และนภาพร พิมพ์วรเมธากุล, 2545)  ดังนั้น มูนมังขอนแก่น จึงหมายถึง มรดกของจังหวัดขอนแก่นที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นแล้วรุ่นเล่าจนถึงรุ่นลูกหลานในยุคปัจจุบัน ซึ่งมุมอีสานสนเทศได้พยายามรวบรวมและเสาะแสวงหาข้อมูลมาจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลอีสานสนเทศ ดังมีรายละเอียดดังนี้

           “ขอนแก่น”  เป็นคำไทยธรรมดา ไม่มีคำแปลเหมือนชื่อเมืองอื่น ๆ ที่ใช้ศัพท์ภาษาอื่นตั้งแล้วแปลความหมายให้เหมาะสมกับภูมิประเทศ หรือประวัติความเป็นมาของแต่ละจังหวัด เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่าง ๆ เป็นศูนย์กลางทางการศึกษา คือ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและโบราณสถานมากมาย ดังปรากฏร่องรอยให้เห็นในปัจจุบัน เช่น แหล่งขุดค้นซากฟอสซิลไดโนเสาร์ และภาพเขียนสีถ้ำฝ่ามือแดง อำเภอภูเวียง เมืองโบราณสมัยทวาราวดี ที่อำเภอชุมแพ เสมาหินที่เมืองชัยวาน อำเภอมัญจาคีรี และศาสนสถานสมัยขอมที่อำเภอเปือยน้อย เป็นต้น มีวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มีผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน เช่น ผ้าไหมมัดหมี่อำเภอชนบท นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และการคมนาคมที่สะดวกตลอดปี
          ที่มาของการตั้งชื่อเมืองมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีต้นมะขามใหญ่ถูกตัดโค่นลงไว้นานหลายปีกลับงอกงามมีกิ่งก้านสาขาขึ้นมาอีก ประชาชนถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์จึงพากันสร้างพระเจดีย์ครอบตอมะขามไว้เป็นที่สักการบูชาพร้อมกับบรรจุพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๙ บทไว้บนตอมะขามนั้น เรียกว่า “พระเจ้า ๙ พระองค์”  และเรียกเจดีย์นั้นว่า  “พระเจดีย์ขามแก่น”  หรือ "พระธาตุขามแก่น"

ซึ่งชาวพื้นเมืองนับถือว่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของจังหวัด โดยในวันเพ็ญเดือน ๖ ของทุกปีจะมีพิธีฉลองและนมัสการเป็นประจำ

ชาวเมืองจึงถือเอาสิ่งมงคลนี้มาตั้งชื่อเมืองว่า “เมืองขามแก่น” แต่ต่อมาเรียกเพี้ยนไปเป็น “ขอนแก่น” ปัจจุบันทางจังหวัดได้นำเจดีย์ขามแก่นมาเป็นตราประจำจังหวัด


         

ประวัติของเมืองขอนแก่นปรากฏหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์และมานุษยวิทยาว่า อาณาเขตจังหวัดขอนแก่นเคยเป็นดินแดนที่มีผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ มีความเจริญรุ่งเรือง มีอารยธรรมสูงส่งมาก่อนสมัยประวัติศาสตร์และคาบเกี่ยวกับสมัยประวัติศาสตร์ ทำให้ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรมของชนชาติโบราณมากมาย ดังนี้

สมัยก่อนประวัติศาสตร์
                จากหลักฐานการสำรวจบริเวณบ้านโนนนกทา บ้านนาดี ตำบลบ้านโคก อำเภอภูเวียง ของ วิลเฮล์ม จิโซลไฮม์ เรื่อง เออร์ลี่บรอนซ์ อิน นอร์ธอิสเทริน์ ไทยแลนด์ ได้ค้นพบเครื่องสำริดและเหล็กมีเครื่องมือเครื่องใช้เป็นขวาน รวมทั้งแบบแม่พิมพ์ที่ใช้หล่อ มีกำไลแขนสำริดคล้องอยู่ที่โครงกระดูกท่อนแขน ซ้อนกันหลายวง พบกำไรทำด้วยเปลือกหอย รวมทั้งพบแหวนเหล็กไน แสดงว่ามีการปั่นด้ายทอผ้าใช้ในยุคนั้นแล้ว นอกจากนี้ ยังพบขวานทองแดง อายุ ๔,๖๐๐-๔,๘๐๐ ปี เป็นหัวขวานหัวเดียวที่พบในประเทศไทย ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ในชั้นดินที่ ๒๐ การกำหนดอายุโดยคาร์บอนด์ ๑๔ จากชั้นดินที่ ๑๙ ปรากฏว่าอายุ ๔,๒๗๕ ปี จากหลักฐานข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นว่าอาณาเขตบริเวณจังหวัดขอนแก่น เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรม วัฒนธรรมอันสูงสุดมาแต่ดึกดำบรรพ์ มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนสมัยพุทธกาลหลายพันปี

สมัยกรุงสุโขทัย
                บริเวณบ้านโนนเมือง วัดป่าพระนอน ตำบลชุมแพ ได้พบเสมาหินปักอยู่เป็นระยะและล้มจมดิน มีรอยสลักกลีบบัว กลีบเดียวหรือสองกลีบ แท่งหินที่สำคัญที่ชาวบ้านเรียกว่า เสาหลักเมืองเป็นรูปทรงกลมมีรอยจารึก ซึ่งเข้าใจว่าเป็นตัวอักษรมอญโบราณ  ได้นำเอามาทำเป็นหลักเมืองขอนแก่น เมืองโบราณ แห่งนี้กรมศิลปากรได้ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ฝังอยู่อย่างเป็นระเบียบ มีโบราณวัตถุหลายอย่าง ฝังรวมอยู่ด้วย สันนิษฐานว่าเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่มาหลายยุคหลายสมัย บริเวณยอดเขาภูเวียงเป็นวงกลมซึ่งโอบล้อมพื้นที่ ๓ ตำบล มีพระพุทธรูปแบบทวารวดี จากภาพถ่ายทางอากาศ พบเมืองโบราณหลายแห่งอยู่ใกล้ลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสำคัญ คือเมืองโบราณที่วัดดงเมืองแอม ในเขตอำเภอน้ำพอง  เมืองมีขนาด ๒,๙๐๐ x ๓,๐๐๐ เมตร ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสานเท่าที่ได้พบเห็นในประเทศไทย จะเป็นรองอยู่ก็เฉพาะเมืองนครชัยศรี (นครปฐมโบราณ) พระธาตุบ้านขาม อำเภอน้ำพอง มีประวัติว่า เดิมมีตอมะขามใหญ่ซึ่งตายไปนานแล้ว กลับงอกเงยขึ้นอีก  คนเจ็บป่วยเมื่อได้กินใบซึ่งงอกขึ้นใหม่นี้จะหาย หากผู้ใดไปทำมิดีมิร้ายหรือดูถูก ไม่เคารพก็จะมีอันเป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วนชาวบ้านจึงพร้อมใจกันก่อพระเจดีย์ครอบตอมะขามนี้ ไว้โดยสลักบรรจุพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าไว้ในตอมะขามเหตุนี้จึงเรียกว่าพระธาตุบ้านขามมาแต่โบราณ
 

สมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงธนบุรี
                เมื่ออิทธิพลของขอมเสื่อมลงหลังพุทธศวรรษที่ ๑๖ จนกระทั่งถึงสมัยอยุธยา บ้านเมืองทางภาคอีสานโดนกระทบจากภัยสงครามหรือภัยอื่น ๆ จนกลายเป็นเมืองร้าง ผู้คนระส่ำระสาย ในการประชุมพงศาวดารภาค ๗๐ ของกรมศิลปากร เรื่องพงศาวดารย่อนครเวียงจันทน์ปรากฏข้อความตอนหนึ่งว่า  "ศักราชได้ ๗๖ ปี กาบสะง้าเจ้าบ้านท่านกวาดครัวภูเวียงลง"  คำว่าศักราชได้ ๗๖ เทียบได้กับ พ.ศ. ๒๒๕๗ คือ ๑๖ ปี ก่อนพระเจ้าศิริบุญสารขึ้นครองราชสมบัติ หรือปลายสมัยอยุธยา และว่าภูเวียงมีฐานะเป็นชุมชนเมืองสำคัญ และมีฐานะเป็นเมืองป้อมหรือเมืองหน้าด่านของเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ในเส้นทางติดต่อระหว่างนครเวียงจันทน์ กับกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานคร  การเดินทัพหรือการเดินทางโดยทั่วไปของทั้งสองนครต้องผ่านโคราช ช่องสามหมอ ภูเวียง หนองบัวลำภู เพราะเป็นทางตรงและมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ต่อมาภายหลังเพื่อหลีกเลี่ยงทางลุ่ม จึงมีทางรถไฟ ทางรถยนต์ ไปตามที่ดอนผ่านเมืองพล บ้านไผ่ ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย

สมัยรัตนโกสินทร์
                ประวัติการสร้างเมืองขอนแก่นได้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๒ ขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์ได้เกิดเหตุพิพาทกับกลุ่มของพระวอที่บ้านดอนมดแดง (ปัจจุบันคือ จ.อุบลราชธานี) จนถึงกับยกทัพไปตีค่ายของพระวอแตกและจับพระวอประหารชีวิต สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถือว่า ฝ่ายพระวอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพไปตีเวียงจันทน์ จากนั้นจึงได้ยกทัพกลับมายังกรุงธนบุรี พร้อมอัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางมาถวายแด่พระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย      

                เจ้าแก้วบุฮม (แก้วบรม) กับเพี้ยเมืองแพน (เทียบบรรดาศักดิ์ได้เสมอชั้น “พระ”) สองพี่น้อง ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าแสนปัจจุทุม (ท้าวแสนแก้วบุฮม) ได้ยกกองทัพจากบ้านเพี้ยปู่ แขวงเมืองทุละคม (ปัจจุบันอยู่ในเวียงจันทน์) ข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านโพธิ์ตาก (ปัจจุบันคือ บ้านโพธิ์ตาม ตำบลบ้านกง อ.เมืองขอนแก่น) และบ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (ปัจจุบันคือ บ้านโพธิ์ศรี ตำบลบ้านโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น) บ้านโพธิ์ชัย เมืองมัญจาคีรี (ปัจจุบันคือ บ้านโพธิ์ชัย อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น) โดยเจ้าแก้วบุฮมได้อพยพไพร่พลเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ชัย เพี้ยเมืองแพนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านชีโหล่น ขึ้นกับเมืองท่งหรือเมืองสุวรรณภูมิ ครั้นต่อมาอีกราว ๙ ปี ในปี พ.ศ. ๒๓๓๑ เพี้ยเมืองแพนก็ได้พาราษฎรและไพร่พลประมาณ ๓๓๐ คน ขอแยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งบึงบอน ตั้งขึ้นเป็นเมืองที่บ้านดอนพยอม เมืองเพี้ย (ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเพี้ย ตำบลเมืองเพี้ย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น) 

                จากพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสานของ หม่อมอมรวงศ์วิจิตร อ้างถึงใน จิ๊กโก๋โรแมนติก, ๒๕๕๒ กล่าวว่า  "ลุจุลศักราช ๑๑๕๙ ปีมเสง นพศก (พ.ศ. ๒๓๔๐) ฝ่ายเพี้ยเมืองแพน บ้านชีโหล่น เมืองสุวรรณภูมิ เห็นว่าเมืองแสนได้เป็นเจ้าเมืองชนบทก็อยากจะได้เป็นบ้าง จึงเกลี้ยกล่อมผู้คนให้อยู่ในบังคับสามร้อยคนเศษ จึงสมัครขึ้นอยู่ในเจ้าพระยานครราชสีมา แล้วขอตั้งบ้านบึงบอนเป็นเมือง เจ้าพระยานครราชสีมาได้มีใบบอกมายังกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เพี้ยเมืองแพนเป็นที่พระยานครศรีบริรักษ์ เจ้าเมือง ยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็นเมืองขอนแก่น ขึ้นกับเมืองนครราชสีมา..."  ส่วนพงศาวดารภาคอีสานฉบับของ พระยาขัตติวงษา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด, พ.ศ. ๒๓๒๕) มีความสำคัญตอนหนึ่งว่า  “...ทราบข่าวว่าเมืองแสนกลัวความผิดหลบตัวหนีลงไป พึ่งพระยาโคราช บอกให้เมืองแสนลงไปเมืองเจ้าเมือง จึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระจันทรประเทศ ขึ้นมาตั้งบ้านกองแก้ว เป็นเมืองชนบท มีไพร่พลสมัครไปด้วย ๓๔๐ คน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๔๐  ฝ่ายเพี้ยเมืองแพนบ้านชีโหล่น เมืองสุวรรณภูมิเห็นว่าเมืองแสนได้เมืองชนบทก็อยากจะได้บ้าง จึงเกลี้ยกล่อมคน ได้สามร้อยคนเศษจึงสมัครขึ้นอยู่กับเจ้าพระยานครราชสีมาแล้วขอตั้งบ้านบึงบอนเป็นเมือง เจ้าพระยานครราชสีมาได้มีใบบอกมายังกรุงเทพฯ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเพียเมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง โดยยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็นเมืองขอนแก่น...”   แต่อีกตำนานหนึ่ง (สมชื่น เชี่ยวกุล, ๒๕๓๘; อนุพันธ์ นิตินัย, ๒๕๔๙) กล่าวว่า หลังจากที่พระวอและพระตา แยกตัวออกจากนครเวียงจันทน์มาอยู่ที่หนองบัวลำภูได้ ๓ ปี  เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๒  เพี้ยเมืองแพน ได้อพยพผู้คนประมาณ ๓๓๐ ครอบครัวจากบ้านชีโหล่น (ปัจจุบันบ้านชีโหล่นอยู่ในเขตอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด) แห่งเมืองท่ง แขวงเมืองสุวรรณภูมิ (ปัจจุบันคือ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด) เพื่อมาตั้งบ้านเมืองที่บ้านบึงบอน อยู่ทางทิศตะวันตกของบึงบอน  โดยขอขึ้นกับเจ้าพระยานครราชสีมา เจ้าพระยานครราชสีมาได้มีใบบอกไปยังกรุงเทพฯ   รัชกาลที่ ๑  จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเพียเมืองแพนเป็น “พระนครศรีบริรักษ์”  ว่าราชการเมือง โดยยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็นเมืองขอนแก่น  

ประวัติการย้ายถิ่นฐานเมืองขอนแก่น

                ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ในปี พ.ศ. ๒๓๓๙ ได้มีการย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านบึงบอนไปตั้งอยู่ที่บ้านหนองเหล็ก (ปัจจุบันคือ ตำบลบ้านแพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม) โดยเจ้าเมืองขอนแก่นได้ขอขึ้นตรงกับกรุงเทพมหานคร คือจะขอส่งส่วยต่อกรุงเทพฯ โดยตรงไม่ผ่านเมืองสุวรรณภูมิ โดยให้เหตุผลว่า บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ยอยู่ใกล้กับแขวงเมืองนครราชสีมา เพราะอยู่ใกล้กับเมืองชนบท ซึ่งขึ้นกับแขวงเมืองนครราชสีมาในขณะนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเข้าใจว่า เจ้าเมืองในขณะนั้นอยากจะแยกตัวออกเป็นอิสระ เพื่อแยกเป็นเมืองใหญ่ การย้ายเมืองครั้งนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคำบ้ง (บุตรเจ้าแก้วบุฮม) เป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่นต่อมา และให้เมืองขอนแก่นขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

                เนื่องจากบรรพบุรุษของเจ้าเมืองขอนแก่นมีพื้นเพเดิมมาจากเมืองเวียงจันทน์ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ การสร้างเมืองใหม่ที่บ้านบึงบอนจึงต้องมีการสร้างวัดคู่กันไปด้วยตามประเพณี จึงได้มีการสร้างวัดขึ้น ๔ วัด ในสมัยนั้นคือ (๑) วัดเหนือ เป็นวัดที่อยู่ทางทิศเหนือหรือทางต้นน้ำ ใช้สำหรับเจ้าเมืองบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีการสำคัญต่าง ๆ  (๒) วัดกลาง เป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางเมือง สำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ได้บำเพ็ญกุศลและประพิธีกรรมต่าง ๆ  (๓) วัดแขกหรือวัดท่าแขก ใช้เป็นที่สำหรับพระสงฆ์หรือคนต่างถิ่นจะได้พักอาศัยหรือทำบุญกุศลและประกอบพิธีต่างๆ  (๔) วัดใต้  เป็นวัดที่อยู่ทางทิศใต้หรือทางด้านใต้ของต้นน้ำ ใช้สำหรับประชาชนพลเมืองบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีการต่าง ๆ  พระนครศรีบริรักษ์ (คำบ้ง) ปกครองเมืองขอนแก่น อยู่ ๒๒ ปีก็ถึงแก่กรรม ท้าวจามบุตร ซึ่งเป็นบุตรได้รับแต่งตั้งเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทนจนถึง
                พ.ศ. ๒๓๕๒ พระนครศรีบริรักษ์ (จามบุตร) ได้ย้ายเมืองจากบ้านหนองเหล็กไปตั้งอยู่ที่บ้านดอนพันชาด หรือดงพันชาด (ปัจจุบันคือ บ้านโนนเมือง ต. แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม) เพราะบ้านบึงบอนใกล้ชิดกับเขตเมืองระหว่างเมืองขอนแก่นกับเมืองนครราชสีมา หลังจากสร้างเมืองใหม่เสร็จก็สร้างวัดอีก ๓ วัดคือ วัดธาตุ วัดกลาง และวัดหนองแวง เหมือนกับที่บ้านบึงบอน (ทองสุข เศรษฐภูมิรินทร์, ๒๕๐๘)
                เมื่อพระนครศรีบริรักษ์ (จามบุตร) ถึงแก่กรรม ท้าวอินซึ่งเป็นบุตรคนโตได้รับแต่งตั้งเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ปกครองเมืองขอนแก่นจนถึง  พ.ศ. ๒๓๘๑ (ในสมัยรัชกาลที่ ๓) จึงได้ย้ายเมืองจากบ้านดอนพันชาดไปตั้งอยู่ที่บ้านโนนทอง ริมบึงพระลับโนนทอง (ปัจจุบันคือ บึงแก่นนคร) ต่อมาเกิดการแย่งราษฎรไพร่พลขึ้นและเกิดแผ่นดินแยกที่ถนนกลางเมือง มีโรคภัยไข้เจ็บ ผู้คนล้มป่วยกันมาก จึงถือว่าที่ตรงนั้นไม่เป็นมงคลต่อการอยู่อาศัย จึงย้ายเมืองอีกครั้งหนึ่งจากบึงพระลับโนนทองไปตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกที่บ้านโนนทัน (ปัจจุบันคือ บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง) ริมบึงบอน (ปัจจุบันคือ บึงแก่นนคร) ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีการปักปันเขตเมืองระหว่างเมืองขอนแก่นและเมืองกาฬสินธุ์ จึงต้องย้ายเมืองกลับไปอยู่บ้านโนนทันและสร้างวัดขึ้น ๒ วัดคือ วัดแขก และวัดโพธิ์ (ทองสุข เศรษฐภูมิรินทร์, ๒๕๐๘)  วัดแขกนั้นภายหลังร้างไปจึงเหลือแต่วัดโพธิ์โนนทันในปัจจุบัน (สมชื่น เชี่ยวกุล, ๒๕๓๘)  เมืองขอนแก่นตั้งอยู่บ้านโนนทันเป็นเวลา ๒๙ ปี พระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวอิน) ถึงแก่กรรม ท้าวมุ่ง ซึ่งเป็นน้องของพระนครศรีบริรักษ์ (อิน) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทน                                               

                 ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๙๘ (ในสมัยรัชกาลที่ ๔) พระนครศรีบริรักษ์ (คำยวง) เจ้าเมืองขอนแก่นในขณะนั้นถึงแก่อนิจกรรม รัชกาลที่ ๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอินธิวงษ์ บุตรคนเล็กของพระนครศรีบริรักษ์ (คำยวง) เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น เพราะมีวิชาความรู้ดีกว่าพี่ชายคนอื่น ๆ และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยานครศรีบริรักษ์ สืบมา                                                                                                              

                  ในปี พ.ศ. ๒๔๐๗ พระยานครศรีบริรักษ์ (อินธิวงษ์) ได้ถึงแก่อนิจกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวคำบุ่ง พี่ชายท้าวอินธิวงษ์ ผู้เป็นอุปฮาด (ปลัดเมืองขอนแก่น) ให้เป็นเจ้าเมืองขอนแก่นสืบแทนน้องชาย แต่ได้ขึ้นว่าราชการเมืองเพียงแค่ ๓ ปี เพราะชราภาพมากแล้ว  ในปี พ.ศ. ๒๔๑๐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวอู๋ ผู้เป็นหลานของท้าวอินธิวงษ์ ขึ้นเป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น และให้ท้าวหนูหล้า บุตรคนเล็กของท้าวอินธิวงษ์ เป็นอุปฮาด (ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระพิทักษ์สารนิคม) และเจ้าเมืองได้ย้ายเมืองขอนแก่นจากบ้านโนนทันไปตั้งอยู่ที่บ้านโนนทอง (บ้านเมืองเก่า) จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๑๓ จึงได้ย้ายจากบ้านเมืองเก่าไปตั้งอยู่ที่บ้านดอนบมริมแม่น้ำชี (ตำบลเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่นในปัจจุบัน) โดยมีท้าวอู๋ ผู้เป็นหลานเป็นผู้ช่วยในการย้ายเมือง  จนถึง พ.ศ. ๒๔๑๐  ย้ายเมืองขอนแก่นอีก คราวนี้ไปตั้งอยู่บ้านดอนบม ตำบลเมืองเก่า ริมแม่น้ำชีด้านทิศตะวันออก ห่างจากตัวจังหวัดปัจจุบันประมาณ ๘ กิโลเมตร
 
                ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ พวกฮ่อยกทัพมายึดเวียงจันทน์และยึดมาถึงเมืองหนองคาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดให้พระยาอำมาตยาธิบดี (ชื่น กัลยาณมิตร) รวบรวมไพร่พลไปปราบฮ่อ ท้าวอู๋ได้ยกทัพจากเมืองขอนแก่นไปสมทบและเข้าตีค่ายฮ่อทางเวียงจันทน์ด้านเหนือได้ ผลงานครั้งนี้ทำให้ท้าวอู๋ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นพระยานครศรีบริรักษ์ (อู๋) เป็นผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น ส่วนท้าวมุ่งนั้นถึงแก่กรรมที่บ้านนกกกระบก (สมชื่น เชี่ยวกุล, ๒๕๓๘)                                                                                                                                 

                 ในปี พ.ศ. ๒๔๓๓  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๕ ได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองหัวเมืองไกลใหม่ทั่วภาคอีสาน และได้เปลี่ยนบริเวณหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือเป็นบริเวณหัวเมืองลาวพวน  ดังนั้นเมืองขอนแก่นจึงขึ้นกับบริเวณหัวเมืองลาวพวน  โดยมีข้าหลวงใหญ่อยู่ที่เมืองหนองคาย  ดังนั้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงต่างพระองค์และมาดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงใหญ่ประจำอยู่ที่เมืองหนองคาย ในการเดินทางไปหนองคายต้องมาข้ามเรือที่ขอนแก่นด้วย วันหนึ่งพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคมเสด็จผ่านแขวงเมืองขอนแก่น ได้ประทับแรมที่บ้านทุ่มหนึ่งราตรี เพราะเส้นทางคมนาคมหรือทางม้าโคเกวียนสมัยก่อนจากนครราชสีมาต้องผ่านมาทางเมืองชนบท-บ้านทุม ไปหนองคาย และในสมัยนั้นเมืองขอนแก่นได้โอนสังกัดจากนครราชสีมามาขึ้นต่อข้าหลวงใหญ่หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๓๓ แล้ว เสด็จในกรมได้ทรงรับสั่งกับพระยานครศรีบริรักษ์ (อู๋) ว่าขอนแก่นตั้งอยู่ริมแม่ชีไม่เหมาะ เพราะเวลาน้ำหลากน้ำจะท่วม ทำให้การเดินทางสัญจรไปมาลำบาก และเมืองมีขนาดเล็ก ประกอบกับอยู่ห่างจากเส้นทางที่จะไปหนองคาย ทรงเห็นว่าบ้านทุ่มทำเลดีมีผู้คนหนาแน่นใกล้เส้นทางไปมา ประกอบกับในสมัยนั้นได้มีสายโทรเลขที่เดินจากเมืองนครราชสีมา ผ่านเมืองชนบท เข้าเขตเมืองขอนแก่น ข้ามลำน้ำชีที่ท่าหมากทัน ตรงไปท่าพระ บ้านทุ่ม โดยไม่เข้าตัวเมืองขอนแก่น ตรงไปข้ามลำน้ำพองไปบ้านหมากแข้งเมืองอุดรธานี ทรงดำริว่าที่ว่าการเมืองขอนแก่นที่ตั้งอยู่บ้านดอนบม ไม่สะดวกแก่ราชการ จึงทรงรับสั่งให้พระนครศรีบริรักษ์ (อู๋) ย้ายเมืองขอนแก่นไปอยู่บ้านทุ่ม  ซึ่งใกล้เส้นทางระหว่างเมืองนครราชสีมาและบ้านหมากแข้ง เมืองอุดรธานี ในปลายปี พ.ศ. ๒๔๓๔ และเปลี่ยนนามเรียกขานตำแหน่งเจ้าเมืองเป็น ผู้ว่าราชการเมือง ดังนั้นเมืองขอนแก่นจึงย้ายไปอยู่บ้านทุ่ม เป็นเวลา ๘ ปี (สถานที่ตั้งเมืองในปัจจุบันอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ ๑๓ ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมืองขอนแก่น)
                พ.ศ. ๒๔๔๒ เกิดภัยแล้ง ชาวเมืองเดือดร้อน เจ้าเมืองจึงย้ายไปอยู่บ้านบึงพระลับโนนทองตามเดิม เพราะบึงพระลับโนนทองเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่และน้ำไม่เคยแห้ง  และได้สร้างศาลากลางขึ้นที่ริมบึงเมืองเก่าทางด้านเหนือ (หน้าสถานที่เคยเป็นที่ตั้งสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์)
                พ.ศ. ๒๔๔๗  โปรดฯ ให้เรียกตำแหน่งข้าหลวงประจำเมืองขอนแก่นว่า ข้าหลวงประจำบริเวณพาชี  ภายหลังเมื่อพระนครศรีบริรักษ์ (อู๋) ลาออกจากราชการในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ พระพิทักษ์สารนิคม (หนูหล้า) ปลัดเมืองขอนแก่นได้ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น และในปีนั้นเอง ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนนามตำแหน่งข้าหลวงประจำเมืองเป็นข้าหลวงประจำบริเวณพาชี ส่วนเมืองต่าง ๆ ที่ขึ้นต่อเมืองขอนแก่นนั้นก็ให้เปลี่ยนเป็นอำเภอ และผู้เป็นเจ้าเมืองนั้น ๆ ก็ให้เปลี่ยนเป็นนายอำเภอ ตำแหน่งอุปฮาดก็เป็นตำแหน่งปลัดอำเภอไป พระพิทักษ์สารนิคม (หนูหล้า) ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นข้าหลวงประจำบริเวณพาชี ว่าราชการเมืองระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๐ จากนั้นพระวิไสยสิทธิกรรม (จีน ปิยรัตน์) ได้รับตำแหน่งแทนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๐
                พ.ศ. ๒๔๕๑  พระยาศรีสุริยราชวรานุวัต (โพธิ) ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลอุดร กับพระวิไสยสิทธิกรรม (จีน ปิยรัตน์) ได้ย้ายศาลากลางเมืองขอนแก่นมาตั้งที่บ้านพระลับ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น (ศาลากลางหลังเก่า ปัจจุบันคือที่ตั้งที่ทำการเทศบาลนครขอนแก่น)   และเปลี่ยนตำแหน่งข้าหลวงประจำบริเวณเป็นผู้ว่าราชการเมือง (ในสมัยก่อนจัดการปกครองเป็น บริเวณ ต่อมาแบ่งเขตการปกครองเป็น เมือง หรือจังหวัด
                ต่อมาในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนคำว่าเมืองเป็น จังหวัด แทน ตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองจึงกลายเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด และศาลาว่าการเมือง ก็เปลี่ยนมาเป็น ศาลากลางจังหวัด นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา 
                ต่อมาในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี  ได้อนุมัติโครงการสร้างผังเมืองขอนแก่นและดำริที่จะก่อสร้างศูนย์ราชการ  เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึง พ.ศ. ๒๕๐๗-๒๕๐๘ สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้จังหวัดขอนแก่นสร้างศาลากลางใหม่ที่สนามบินเก่า ห่างจากที่เดิม ๒,๐๐๐ เมตร ปัจจุบันเรียกว่า "ศูนย์ราชการ" ในสมัย นายสมชาย กลิ่นแก้ว เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งท่านได้ดำรงตำแหน่งในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๑๑  

ดูเพิ่มเติม

ชุมชนโบราณ/เมืองโบราณขอนแก่น     

สถานที่สำคัญ

พระมหาธาตุแก่นนคร     

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น         

ศาลเจ้าปู่ครูเย็น        

ศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ขอนแก่น 

ศาลเจ้าพ่อมอดินแดง           

ศาลเจ้าแม่สองนาง    

แหล่งอ้างอิง

กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๙ ขอนแก่น.  (ม.ป.ป.).   ชุมชนโบราณ/เมืองโบราณ/ขอนแก่น.  ค้นเมื่อ 30 ธันวาคม ๒๕๕๓ จาก   http://thai-culture.net/khonkaen/detailcontent.php?sub_id=45
จิ๊กโก๋โรแมนติค.  (2552).  ที่มาของชื่อ “ขอนแก่น”.   ค้นข้อมูลวันที่ 15 ตุลาคม 2553 จาก 
http://www.oknation.net/blog/tourdeedee/2009/10/12/entry-3
เติม วิภาคย์พจนกิจ.  (๒๕๔๖).  ประวัติศาสตร์อีสาน.  พิมพ์ครั้งที่ ๔.  กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
ทองสุข เศรษฐภูมิรินทร์.  (๒๕๐๘).  ประวัติต้นตระกูลพระยานครศรีบริรักษ์ : อดีตผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น.ขอนแก่น: ม.ป.ท.      บุ
ญเกิด พิมพ์วรเมธากุล และนภาพร พิมพ์วรเมธากุล.  (2545).  พจนานุกรมภาษาถิ่นอีสาน (เว่าอีสาน).  ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สมชื่น เชี่ยวกุล.  (๒๕๓๘).  รายงานการวิจัยเรื่อง ภูมิหลังและคติชนวิทยาที่เกี่ยวข้องกับสถานที่สำคัญของชุมชนเมืองรอบบึงแก่นนคร.  ขอนแก่น: ภาควิชาภาษาต่างประเทศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานจังหวัดขอนแก่น.  กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร.  ประวัติเมืองขอนแก่น.  ค้นข้อมูลวันที่ 7 ตุลาคม 2553 จาก http://www.khonkaen.go.th/
อนุพันธ์ นิตินัย.  (๒๕๔๙).  ตำนาน ๗๖ จังหวัด เจาะลึกความเป็นมาประวัติศาสตร์ไทย.  กรุงเทพฯ: Good Morning Publishing.

 


 

              

 



ลิขสิทธิ์ © 2012 สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าในรูปแบบใดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลเว็บไซต์เป็นลายลักษณ์อักษร
ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ : somphot@kku.ac.th ผู้พัฒนาโปรแกรม
หมวดหมู่อื่น ๆ
document นิยายปรัมปราและนิทานเกี่ยวกับไหม
document คำขวัญ ประวัติอำเภอชนบท ศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์
document หมู่บ้านงูจงอาง : ภูมิปัญญาของบ้านโคกสง่า
document อำเภอเมืองขอนแก่น
document ข้อมูลจังหวัดขอนแก่น
document ข้อมูลทั่วไปอำเภอหนองสองห้อง
document แผนที่จังหวัดขอนแก่น
document เขื่อนอุบลรัตน์
document บางแสน 2 ขอนแก่น
document จากบ้านเกิ้งมาเป็นอำเภอบ้านไผ่ในปัจจุบัน
document รายงานการวิจัยเรื่องผลการบรรเทาและแก้ปัญหาผู้ยากลำบากของโครงการเมนู 5 กรณีศึกษา : มูลนิธิองค์กรชาวบ้านเพื่อการพัฒนาภาคอีสานขอนแก่นเพื่อการพัฒนา
document รายงานการศึกษาเรื่องผลของการแก้ปัญหาเร่งด่วนกลุ่มผู้ยากลำบาก : กรณีศึกษาเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์ จังหวัดขอนแก่น
document ปราชญ์ชาวบ้าน จังหวัดขอนแก่น
document การจัดการสารสนเทศภูมิปัญญาชาวบ้านของเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านภาคอีสาน
document Lessons from the sufficiency economy applications of Prach Chao Ban: Case study of Khon Kaen
document แนวทางการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดและศักยภาพการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมชนบท(โฮ มสเตย์)บ้านซะซอม ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
document หมู่บ้านเต่า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
document ดอกลำดวน
document ผ้าไหมบ้านเขว้า
document ปราสาทวัดสระกำแพงน้อย
document ข้อมูลทั่วไปจังหวัดนครพนม
document พุทธสถานภูปอ
document ปราสาทสระกำแพงใหญ่
document เขื่อนลำปาว
document อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
document พุทธมณฑลอีสาน กับฐานอารยธรรม ผ้าใหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร
document พระธาตุพนมบรมเจดีย์
document ไหว้พระ ธาตุประจำวันเกิด (พระธาตุประสิทธิ์)
document ไหว้พระ ธาตุประจำวันเกิด (พระธาตศรีคูณ)
document วัดพระธาตุเรณู
document ปราสาทเขาพระวิหาร
document พระธาตุนาดูน
document พระธาตุยาคู (พระธาตุใหญ่)
document พระพุทธรูปยืนมงคลและพระพุทธมิ่งเมือง
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
document วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว)
document ไหว้พระ ธาตุประจำวันเกิด (พระธาตุมหาชัย)
document สวนสมเด็จศรีนคริทร์
document พิพิธภัณฑ์สิรินธร หรือ อุทยานโลกไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว
document หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านหนองเขื่อนช้าง
document สวนกล้วยไม้หอมอุดรซันไฌน์
document พระธาตุเรืองรอง
document วนอุทยานโกสัมพี
document พระธาตุท่าอุเทน
document ไหว้พระ ธาตุประจำวันเกิด (พระธาตุนคร)
document อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
document เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
document วัดพระพุทธบาทบัวบาน
document บ้านนาจอก (บ้านลุงโฮ หรื บ้านท่านโฮจิมินห์)
document พระธาตุดอนแก้ว
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมหาวีรวงศ์
document เสื่อกกบ้านแพง
document ข้อมูลทั่วไปจังหวัดสกลนคร
document "เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู"
document วนอุทยานวังสามหมอ
document ด่านพรมแดนช่องสะงำ
document พระธาตุขามแก่น
document แหล่งโบราณคดีบ้านกุดคอเมยและบ้านกุดกวางสร้อย
document โนนวัดป่า
document เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
document ปราสาทหินพนมวัน
document หมู่บ้านงูจงอาง
document วัดมหาธาตุ ยโสธร
document ถ้ำเอราวัณ
document เขื่่อนอุบลรัตน์
document อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ
document ศูนย์วิจิตรแพรวาบ้านโพน
document อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
document อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
document พระธาตุก่องข้าวน้อย
document อุทยานแห่งชาติภูเวียง
document อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
document อุทยานแห่งชาติภูเรือ
document ปราสาทเปือยน้อย
document ศาลาใหมไทย
document พระธาตุเชิงชุม สกลนคร
document อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
document โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น
document พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
document วัดพระธาตุบังพวน
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
document เมืองโบราณโนนเมือง
document พิพิธภัณฑ์อาจารย์มั่น ภูริทัตโต
document พุทธสถานภูสิงห์
document วัดโพธิ์ชัย
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้องเอ็ด
document พระธาตุนารายณ์เจงเวง
document พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน
document ปรางค์กู่
document พิพิธภัณฑ์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
document สวนสัตว์นครราชสีมา
document วัดบูรพากู่กาสิงห์
document อุทยานแห่งชาติภูพาน, สกลนคร
document แนะนำเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน
document พระธาตุภูเพ็ก
document กลุ่มทอผ้าบ้านหวายหลึม
document แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท
document สังเวชนียสถาน 4 ตำบล
document กู่พระโกนา
document อุทยานเขาใหญ่
document พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
document ข้อมูลทั่วไปจังหวัดมุกดาหาร
document หอไตรวัดสระไตรนุรักษ์
document หมู่บ้านทำหมอนขิตบ้านศรีฐาน
document หอแก้วมุกดาหารเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
document ภูถ้ำพระ
document อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ-มุกดาหาร
document พระธาตุศรีสองรัก
document วัดพระพุทธบาทยโสธร อ.มหาชนะชัย
document วัดสองคอน จ.มุกดาหาร
document อนุสาวรีย์พระยาภักดีชุมพล
document วัดทุ่งศรีเมือง
document โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้
document แก่งกะเบา
document สวนหินผางาม
document ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้
document ปรางค์กู่
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี
document วัดมโนภิรมย์
document วนอุทยานเขากระโดง
document อุทยานแห่งชาติตาดโตน
document อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
document อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว
document น้ำตกสำโรงเกียรติ
document ปราสาทเมืองต่ำ
document ด่านพรมแดนช่องเม็ก
document ตลาดสินค้าอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร
document อุทยานแห่งชาติภูแลนคา
document ถ้ำโพธิสัตว์
document พระเจ้าใหญ่วัดหงษ์
document อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
document มอหินขาว
document หมู่บ้านทอผ้าไหม
document อุทยานแห่งชาตินาแห้ว
document วัดหินหมากเป้ง
document อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
document ปรางค์กู่สวนแตง
document หมู่บ้านทอผ้าไหมบ้านเขว้า
document เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว
document อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย
document วัดบูรพาราม
document พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์
document แก่งหินงามสามพันโบก จ.อุบลราชธานี
document วัดภูทอก
document หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง
document หมู่บ้านทอผ้าไหมบ้านท่าสว่าง
document หมู่บ้านหัตถกรรมเขวาสินรินทร์
document ตลาดท่าเสด็จ
document ปราสาทศรีขรภูมิ
document แหล่งโบราณคดีบ้านก้านเหลือง
document ปราสาทบ้านพลวง
document สะพานมิตรภาพไทย-ลาว
document เขื่อนสิรินธร
document วัดพระเหลาเทพนิมิตร
document อุทยานแห่งชาติภูสระบัว
document สวนเกษตรชิตสกนธ์
document หมู่บ้านหมอลำ บ้านปลาค้าว
document แหล่งเรียนรู้ชุมชนโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนสาระ เศรษฐศาสตร์ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิเขต 1
document Eco-tourism : การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
document กลยุทธ์การตลาดการท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด
document กลยุทธ์การตลาดการท่องเที่ยวชายแดน : กรณีศึกษาสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร
document การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านปราสาท อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
document การตลาดเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย
document การท่องเที่ยวกับกระแสวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลง
document การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน : กรณีศึกษา หาดชบา ตำบลชบา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
document การบริหารจัดการการท่องเที่ยวแบบชุมชนมีส่วนร่วม กรณีหมู่บ้านโคกโก่งอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
document การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยว หมู่บ้านบุไทรโฮมสเตย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
document การเสริมบทบาทของ อบต. ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กรณีศึกษา อบต. บ้านเป็ดกับบึงหนองโคตร อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
document การพัฒนาการจัดการสวนเกษตรสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร : กรณีศึกษา สวนยอ รอยัล ทรอปปิคส์
document การพัฒนาการท่องเที่ยวในเชิงบริบท
document การพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในอีสานใต้ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี
document การพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีศึกษาแหล่งท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด คือ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ เลยและอุบลราชธานี
document การพัฒนาตลาดสินค้าของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน ล่าง
document การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับผู้ทำงานในธุร กิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
document การพัฒนาแบบเรียนและคู่มือครูรายวิชา ส071 ท้องถิ่นของเรา 1 เรื่องสภาพแวดล้อมทางกายภาพของภูเวียงสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
document การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
document การศึกษาธุรกิจการบริการอาหารเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวั นออกเฉียงเหนือตอนล่าง
document การศึกษาศักยภาพทรัพยากรการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
document การศึกษาเพื่อกำหนดแผนปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าลำปาว (สวนสะออน) และหาดดอกเกด (เขื่อนลำปาว) จังหวัดกาฬสินธุ์
document ข่าวเกี่ยวมหาวิทยาลัยขอนแก่นในหนังสือพิมพ์
document การพัฒนาตลาดสินค้าของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน ล่าง
document การพัฒนาแบบเรียนและคู่มือครูรายวิชา ส071 ท้องถิ่นของเรา 1 เรื่องสภาพแวดล้อมทางกายภาพของภูเวียงสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
document การศึกษารูปแบบของแหล่งที่พักแรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนื อตอนล่าง
document ความรู้ทัศนคติและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในท้องถิ่น : กรณีศึกษา หาดบางแสน 2 อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
document ทบทวนแผนพัฒนาการท่องเที่ยวภาคอีสาน
document ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงจูงใจที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณพรมแด นด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร
document ปัจจัยสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในวนอุทยาน (สวนหิน) ของประเทศไทย : กรณีศึกษา วนอุทยานผางาม จังหวัดเลย
document ปัจจัยที่มีผลต่อการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในจังหวัดอุดรธานี
document พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงพุทธของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดสกลนคร
document รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาการท่องเที่ยวแหล่งทรัพยากรทางวัฒนธรรมตามเส้นทาง ลำแม่น้ำมูล
document รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์รูปแบบของที่ระลึกทึ่อาจพัฒนาขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวตามลำ แม่น้ำมูล
document รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ศักยภาพการท่องเที่ยวของแหล่งที่อยู่อาศัยสัตว์ป่าชายน้ำต ามลำแม่น้ำมูล
document รายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีศึกษาแหล่งท่องเที่ยวใน 5 จังหวัดคือ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ เลยและอุบลราชธานี
document รายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : กรณีศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในอีสานใต้ คือ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
document รายงานการวิจัยเรื่องการพัฒนาศักยภาพในการนำเที่ยวของชุมชนโดยรอบ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พื้นที่โคกภูตากา อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
document รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษารูปแบบของแหล่งที่พักแรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยวในเขต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน : กรณีศึกษาจังหวัดหนองคาย
document รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษารูปแบบของแหล่งที่พักแรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยวในเขต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
document การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในชุมชนลุ่มแม่น้ำมูลตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ถึงปัจจุบัน
document กบฎผู้มีบุญโสภาแห่งบ้านสาวะถี จังหวัดขอนแก่น
document ประวัติตำบลเขื่อนอุบลรัตน์
document เขื่อนอุบลรัตน์
document สะพานหินธรรมชาติ อำเภออุบลรัตน์
document อุทยานแห่งชาติน้ำพอง-ภูเม็ง อำเภออุบลรัตน์
document หาดจอมทอง หินลอยน้ำ อำเภออุบลรัตน์
document หาดบางแสน 2
document ประวัติอำเภอเขื่อนอุบลรัตน์
document ศาลเจ้าจอมนรินทร์
document สวนเต่าเพ็ก
document หมู่บ้านงูจงอาง
document พระนรินทร์สงครามหรือพระยานรินทร์
document ศาลเจ้าจอมนรินทร์
document เส้นทางท่องเที่ยวถวายเทียนพรรษาภาคอีสาน
document การศึกษาบทบาทการละเล่นพื้นบ้านของเด็กจังหวัดขอนแก่น
document ตัวชี้วัดที่มีปัญหามากของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำแนกตามตัวชี้วัดระดับจังหวัด ปี 2552
document รายงานการวิจัยการจัดการและการพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ : กรณีศึกษาการวางแผนพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สปป.ลาว กัมพูชาและเวียดนาม
document สรุปประสบการณ์การจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศภาคอีสาน
document การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านปราสาท อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
document การบริหารจัดการการท่องเที่ยวแบบชุมชนมีส่วนร่วม กรณีหมู่บ้านโคกโก่ง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
document การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในชุมชนลุ่มแม่น้ำมูลตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ถึงปัจจุบัน
document ความรู้ทัศนคติและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในท้องถิ่น : กรณีศึกษา หาดบางแสน 2 อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
document รายงานการประชุมประชาพิจารณ์โครงการวิจัยเพื่อเสนอแนะการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของแหล่ งท่องเที่ยวในเขตจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง : เส้นทางที่ 2 พระธาตุขามแก่น กู่ประภาชัย หมู่บ้านงูจงอาง น้ำตกบ๋าหลวง วัดโพธาราม อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ เขื่อนอุบลรัตน์ วัดพระพุทธบาทภูพานคำ บ้านท่าเรือ บางแสน 2 อุทยานแห่งชาติน้ำพอง
document รายงานฉบับสมบูรณ์เรื่องการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
document รายงานที่ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัย ประเภทอุดหนุนทั่วไป มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีงบประมาณ 2545 โครงการวิจัยเรื่องการออกแบบพัฒนาสื่อเพื่อการส่งเสริมการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ก ารท่องเที่ยวกรณีศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
document รายงานวิจัยชุดโครงการวิจัยการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เรื่องการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนารูปแบบการผลิตสินค้าประเภทของที่ระลึกเพื่อการท่องเ ที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
document รายงานการวิจัยศักยภาพของชุมชนอีสาน : กรณีศึกษาบ้านดอนแคน ตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
document อำเภอหนองสองห้อง จ.ขอนแก่น
document อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
document สถานที่ท่องเที่ยว อ.ชนบท
document อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
document จังหวัดบุรีรัมย์ [BURIRAM]
document จังหวัดกาฬสินธุ์ Kalasin
document จังหวัดเลย(loei)
document จังหวัดอุบลราชธานี (Ubonratchathani Province)
document การเปลี่ยนแปลงอาชีพของชาวอีสานในชุมชนชานเมืองหลักตั้งแต่ตั้งชุมชนถึงปัจจุบัน
document พัฒนาการของการใช้ที่ดินชุมชนชานเมืองหลักภาคอีสาน
document รายงานการวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการพัฒนาหมู่บ้านในเขตป่าเตรียมการสงวน : ศึกษากรณีบ้านโคกสง่า อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ
document รายงานการวิจัยเรื่องพัฒนาการของการใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงอาชีพของชาวอีสานในชุ มชนเมืองหลัก : กรณีบ้านโนนขมิ้น จังหวัดอุดรธานี
document รายงานการวิจัยเรื่ององค์กรชุมชน : 6 กรณีศึกษาในภาคอีสาน
document ศักยภาพของชุมชนและองค์กรชุมชนในการพัฒนาตนเอง: กรณีศึกษาเทศบาลตำบลไทรโยง-ไชยวาล
document สถานภาพการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีอีสานในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
document เทคโนโลยีการถลุงเหล็กและการผลิตเกลือของอีสานสมัยโบราณ
document พลวัตชุมชนชายแดนไทย-ลาวในกระแสโลกาภิวัตน์
document สถานภาพการให้ความร่วมมือทางวิชาการของมหาวิทยาลัยขอนแก่นแก่ประเทศเพื่อนบ้าน พ.ศ. 2535-2537
document สิทธิเด็กในครอบครัวจากมุมมองการปฏิบัติต่อเด็กของครอบครัวชนบท
document การวางแผนพัฒนาระดับภูมิภาค : ทัศนะจากญี่ปุ่น การวางแผนพัฒนาระดับภูมิภาค : ทัศนะจากญี่ปุ่น
document การสร้างอัตลักษณ์ของชาวชุมชนแออัดในจังหวัดขอนแก่น
document รายงานการวิจัยเรื่องประวัติศาสตร์เศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำชีระหว่าง พ.ศ. 2475-2527 : กรณีสามหมู่บ้านในจังหวัดร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และขอนแก่น
document รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาการท่องเที่ยวแหล่งทรัพยากรทางวัฒนธรรมตามเส้นทาง ลำแม่น้ำมูล
document กู่แก้ว อ.เมือง จ.ขอนแก่น
document การพัฒนาเกมการเล่นพื้นเมืองของไทย "งูกินหาง" เพื่อการแข่งขัน
document การพัฒนาเกมการเล่นพื้นเมืองของไทย "เตย" เพื่อการแข่งขัน
document หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ
document อำเภอบ้านแฮด
document ศาลเจ้าปู่ครูเย็น ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น
document ศาลเจ้าแม่สองนาง ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น
document อำเภอหนองนาคำ
document อำเภอโคกโพธิ์ไชย
document อำเภอโนนศิลา
document ประวัติความเป็นมาของอำเภอภูเวียง
document พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง พระอารามหลวง
document ประวัติความเป็นมาอำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
document พระธาตุพระอานนท์ วัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร
document ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อพระลับ
document ขอนแก่นเคานท์ดาวน์ ปาร์ตี้ปีแสง 2011
document ศาลหลักเมืองขอนแก่น
document เมืองโบราณโนนเมือง
document วัดป่าพระนอนพัฒนาราม
document ประวัติเมืองเชียงคาน



RSS